การรวบรวมบทคาถา ความรู้เกี่ยวกับการทำบุญ การให้ทานและพิธีทางศาสนาพุทธ เพื่อท่านที่ต้องการทราบคาถาบูชาองค์พระ เทพ เช่น คาถาบูชาพระพิฒเนศวร์คเณศวร์ พระศิวะ พระแม่อุมา พระนารายณ์ พระแม่ลักษมี พระพรหม พระสุรสวดี บูชาเทพ เพื่อความเจริญรุ่งเรือง และคาถาอื่น ๆ และรวมทั้งความหมายของการทำบุญและอานิสงส์ของการทำบุญในพุทธศาสนา เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ทุกท่าน หากมีความสนใจพระเครื่อง องคเทพ เศียรครู รูปภาพ เข้าไปชมที่ พรนเรศวร์ pornnarate. com ได้ค่ะ สอบถาม โทร 090-445-9326 , 084=661-6988 ค่ะ
วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553
ไหว้เจ้าแม่กวนอิมมูลนิธิเทียนฟ้า ที่เยาวราช
วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553
คาถาบูชาพระสีวลี และอานิสงฆ์
คาถาบูชาพระสีวลี (ของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท)
นะโมตัสสะ ภะคะวะ โต อะระหัตโต สัมมาสัมพุธธัสสะ ๓ จบ
สีวลี จะ มะหาเถโร ปัจจะยะลาภะปูชิโต มะนุสโสเทวะ ตาอินโท พระมายะโม ยักขาวา ปิตัสสะ นิรันตะรัง ปะนะ ลาภะ สักกาเรอาเน็นติ นิจจัง สีวะลิดเถรัสสะลาโภจะ สักกาโร โหติ สีวะลีมะหาเถรันจะปูชะกัสสะ สะทาวาปิ คาถันจะ สังวัตตะนัสสะ ลาโภจะ สักกาโรโหติ เถรัสสะ อานุภาเวนะ ลาโภเมโหตุสัพพะทา เอเตนะ สัจจะวัดเชนะ ลาโภเมโหตุ สัพพะทา
เมื่อกล่าวคำอาราธนาขดลาภสักการะตามความปรารถนาแล้ว จงสวดคาถาพระสีวะลีบทต่อไปให้ได้วันละ ๓ ครั้ง ๗ ครั้ง จะเกิดโชคลาภตามความปรารถนาทุกประการ
สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตาระระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ
สีวละ จะ มะหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ
อะหังวันทามิ ตัง สะทา สีวะลี เถรัสสะ เอตังคุนัง สะวัสติลาภัง ภะวันตุเม
พระคาถาบูชาทั้ง ๒ บท คอยบูชาสวดเป็นประจำ จะเกิดลาภสักการะซื้อง่ายขายคล่อง ต่อไปจะร่ำรวยเป็นเศรษฐ๊ มหาเศรษฐี และจะมีโชคชะตาราศีดีขึ้นทุกวัน
วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553
พ่อบอกว่า แม่เล่าให้ฟัง : วัดที่มีชื่อในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 หลวงพ่อโบสถ์น้อย
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjbhXBrZXcGvI0eYnXuH-hvDYc1-eaxnXWUkEOGBe_bVU46olo8vystIiH27kdOqqRiHBvye7ljrsVxl0RUTlZgbndgYYzlbRBlqdg3TPpeeHH88qhLp12ju8samd8FDNcgxoKKiUmGoaQ/s320/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A205.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiK4rsU2C0iNMOUhgEvKnTE0hHphPxxWQ3uJ5yTUlw9oETOii4_Iwg2xyB1uibdXmW4lBNKO9FyJHnDdABhVMIJcEFVQaoOSe87FErv4MnU19YrqHXFnszRgJeWQk4VYv1dXAIidt-iDBI/s320/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A204.jpg)
วันเสาร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2553
สงกรานต์นี้ เที่ยวไหว้พระ ๙ วัด เพื่อสิริมงคลในชีวิต
คติการไหว้พระ ๙ วัด มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับพุทธศาสนิกชน นอกจากด้วยคำพ้องเสียงของเลข ๙ พ้องกับคำว่า “ก้าว” อันหมายถึงความก้าวหน้าเพิ่มพูน ทั้งในด้านความมั่นคงในชีวิต ความมั่นคงของทรัพย์สิน ความมีชื่อเสียง และความมีเสน่ห์เป็นีทรักของคนทั่วไปแล้วชื่อของวัดยังหมายถึงความมีสิริมงคล อันเป็นการสร้างเสริมกำลังใจทื่ดีด้วย
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhsGvwoo9EMC9FSKwUHDXwtclp00JanI1QH1h5000WL-jNqBpIzAlovZW2cbd8Md39aHnVCJ0zOqG06t5vOg55NUY7aYIemN9w8Q9aKcHWbU-2vf08G8jjOIlj4p-CVZxpg-XgFnbL4U98/s320/sagad1.jpg)
ตั้งอยู่ที่ถนนจักรพรรดิพงษ์ เขตป้อมปรายศัตรูพ่าย ได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม ในสมัยรัชกาลที่ ๑ วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีความงดงามโดดเด่นและเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์ที่ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงเทพฯ นั่นคือ บรมพรรพตหรือภูเขาทองซึ่งสร้างเป็นรูปภูเขา โดยมีพระเจดีย์สีทองอร่ามอยู่บนยอด รวมความสูง ๗๘ เมตร ผู้ที่ไปวัดนี้สามารถขึ้นไปถึงยอดพระเจดีย์โดยอาศัยบันไดเวียนเป็นทางขึ้น
นอกจากจะชมทิวทัศน์อันสวยงามของกรุงเทพฯ บนยอดภูเขาทองแล้ว ยังได้สักการะ”พระบรมสารีริกธาตุ” ที่บรรจุอยู่ในพระเจดีย์เพื่อ “ความเป็นสิริมงคล” และ “ความมั่นคง” ในชีวิต ประดุจภูเขาทองที่นั่งตระหง่านอย่างมั่นคงเคียงคู่พระนคร
เวลาทำการ ๗.๓๐ – ๑๘.๐๐ น.
http://www.watsrakesa.com/
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiG3HWI6xC3Pt9gCpbZOSS_4FQ8FQUfZR87gmowqtgSlovrf8Z6wdClSIC2EV_o-iGbcUs25ORi9dREMyhCE-i0UJGH0WyoEcfbNwtXQlR61i5SUKGAcY9_IqaniMi_xJbQ40kj6oaZBEE/s320/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%84%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C.gif)
จากภูเขาทองเดินทางเส้นถนนราชดำเนิน เป็นระยะทางอีกไม่ไกลจะถึงวัดพระเชจุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจหลากหลาย โดยเฉพาะเจดีย์ ๙๙ องค์ ซึ่งมากที่สุดในกุงเทพฯ พระมหาเจดีย์ ๔ รัชกาล ประติมากรรมรูปฤๅษีดัดตนท่าต่าง ๆ ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่มีการสอนนวดแผนโบราณ และพระนอนขนาดใหญ่มีความยาว ๔๖ เมตร ซึ่งงดงามที่สุดในประเทศ (ตื่นเป็นสุข หลับเป็นสุข มีความสุขทั้งยามตื่นและยามนอน)
และต้นโพธิ์เป็นไม้ใหญ่ที่มีอายุยีน แผ่กิ่งก้านสาขาและแตกใบให้ร่มเงา จึงเชื่อกันว่าการไหว้ “พระพุทธเทวปฏิมากร” ที่วัดโพธิ์จะทำให้เกิด “ความร่มเย็นเป็นสุข” ในชีวิต
เวลาทำการ ๘.๐๐ -๑๘.๐๐ น.
http://www.watpho.com/
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEijEglpWMSoniN04o-RF48LqC419ZE5wY5hv5DOOj3JycdnN7MnDK9lW54OhOeeYZPyEdXR51tn3sR9Phv1uzzJ1CA-HvfEgtpG_hWx7Tf68qFm4hPezDgECk64jCMMbGvsMhZK0hYB3To/s320/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%97.jpg)
จากถนนข้าวสาร พียงข้ามมายังถนนจักรพงษ์ เขตพระนคร ก็จะพบวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ วัดชนะสงคราม ซึ่งรัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าฯ ให้บรูณะปฏิสังขรณ์และให้เป็นวัดพระสงฆ์ผ่ายรามัญ เพื่อให้เกียรติแก่ทหารมอญในกองทัพของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทที่มีชัยชนะในการรบเหนือข้าศึกถึง ๓ ครั้ง
ผู้ที่ไปวัดนี้ต้องไปสักการะ “พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์” พระประธานในพระอุโบสถซึ่งด้านหลังองค์พระบรรจุพระอัฐิพระเจ้าลูกเธอกรมพระราชวังบวรฯ ทั้ง ๕ รัชกาล ซึ่งจะทำให้เกิดอานิสงส์แห่งความมั่นคงในชีวิต “มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง”
เวลาทำการ ๘.๐๐ – ๑๕.๓๐ น.
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi95As9lv8rBQLOHsk4IRWbCxkOTtZE1uLKtoat6lAR5NAwrRyhwN1k6F_D9Ly4JmCGByXjgOlWQzhtaGhzdVIReiBcRzZtUgDjhAXGcZYemfzEAC6BaoeligeZTaPILB_ePQDOX6nSmZ4/s320/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%95.jpg)
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
หรือวัดพระแก้ว ตั้งอยู่ที่ถนนหน้าพระลานเขตพระนคร รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เพื่อความสะดวกในการบำเพ็ญพระราชกุศลตามพระราชประเพณี
ระเบียงพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ที่สวยงามและยาวที่สุดในโลกภายในประดิษฐาน “พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร” หรือ “พระแก้วมรกต” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย ซึ่งผู้กราบไหว้เชื่อว่า “แก้วแหวนเงินทอง ไหลมาเทมา” อันหมายถึงทำให้มีความร่ำรวย เพราะคนไทยถือว่าแก้วเป็นสัญลักษณ์แทนความมั่งคั่ง ร่ำรวย ฉะนั้นการมาสักการะที่วัดพระแก้ว นอกจากจะได้ชมทั้งความงามทางศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมแล้ว ยังจะได้ขอพรตามที่ปรารถนาด้วย
เวลาทำการ ๘.๓๐-๑๕.๓๐ น.
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgumPMRZ-Pp9FShAavGrMzfRvDbIC2Cnj480au52Z30zqCTF3lVfGSCO9w1t4ortLOTlP4EyE1jtn6mNn6bk4mRT073TYpO_jbuxo2qGGT10tE4ej7HAdTYxd1JtGNvrL2CmhYqyEtL_vo/s320/4%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3.jpg)
หากต้องการไหว้พระเพื่ออธิษฐานขอให้มั่งคั่ง ร่ำรวยแล้ว วัดไตรมิตรวิทยาราม ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธ์วงศ์ เป้นอีกวัดหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดี เนื่องด้วยเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” หรือ “หลวงพ่อทองคำ” พระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีส่วนผสมของทองคำสูงมาก เรียกว่า ทองเนื้อเจ็ด น้ำสองชา โดยจากฐานองค์พระขึ้นไปเป็นเนื้อทองคำบริสุทธิ์ร้อยละ ๔๐ พระพักตร์มีเนื้อทองร้อยละ ๘๐ ส่วนพระเกศมีน้ำหนัก ๔๕ กิโลกรัม เป็นเนื้อทองบริสุทธ์ร้อยละ ๙๙.๙๙
ก่อนที่จะเป็นพระพุทธรูปทองคำอย่างวันนี้ เดิมทีองค์พระหุ้มด้วยพระพุทธรูปปั้น ต่อมาเมื่อมีการอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพระวิหารได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อปูนที่หุ้มพระหัตถ์เกิดกะเทาะออกมา จึงพบว่าภายในเป็นพระพุทธรูปทองคำที่มีลักษณะที่งดงามและสมบรูณ์อย่างยิ่ง ผู้สักการะหลวงพ่อทองคำที่วัดไตรมิตรเชื่อกันว่า “จะประสบความสำเร็จในการค้าขาย และมีความร่ำรวยเงินทอง”
เวลาทำการ ๘.๓๐-๑๗.๐๐ น.
http://www.wattraimitr-withayaram.com/
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjr9IZTdocay_cp6F-1XCs36pI-MrxufV7XgiO58q88bKWtbwEurIRKsHhoNQTfyaXvkuExgeNc_ja6Sk2Sss4t0x5E9TT-my2F9Fyltfifp7CgoP3nXCMrPCWrlZqPc2kfkdeYsFRSkFY/s320/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%86%E0%B8%B1%E0%B8%87.jpg)
เป็นวัดโบราณ ตั้งอยู่บนถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดบางหว้าใหญ่ ในสมัยรัชกาลที่๑ ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ ระหว่างนั้นได้ขุดพบระฆังใบหนึ่ง จึงพระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดระฆังโฆษิตาราม วัดแห่งนี้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเป็นพระเถระผู้ทรงเกียรติคุณและวิทยาคุณที่โด่งดังมากและยังเป็นผู้นำบทสวดอันศักดิ์สิทธ์ที่ตกทอดจากลังกามาดัดแปลงให้สมบูรณ์จนกลายเป็นคาถาชินบัญชร ซึ่งหากผู้ใดสวดเป็นประจำแล้วจะเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง
ตามคติความเชื่อกล่าวกันว่า หากไหว้สมเด็จพระพุฒาจารย์จะมี “ชื่อเสียงโด่งดัง” ดุจระฆัง และ “มีคนนิยมชมชื่น” ไม่สร่างซา
เวลาทำการ ๘.๐๐-๑๘.๐๐ น.
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณฯ หรือวัดแจ้ง ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ เดิมชื่อวัดมะกอกเป็นวัดโบราณสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาฯ
พ.ศ. ๒๓๑๐ เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เสด็จฯ จากกรุงศรีอยุธยามาถึงหน้าวัดมะกอกตอนรุ่งสาง จึงโปรดเกล้าฯ ให้เทียบเรือพระที่นั่งเพื่อเสด็จฯ ขึ้นไปสักการะพระมหาธาตุและกำหนดพื้นที่เมืองธนบุรีให้เป็นราชธานี พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อวัดมะกอกว่า “วัดแจ้ง”
พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก พระประธานในพระอุโบสถ หล่อขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๒ โดยกล่าวกันว่า พระองค์ทรงปั้นหุ่นพระพักตร์ด้วยพระองค์เอง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ผู้ที่มากราบไหว้เชื่อกันว่า จะทำให้”มีชีวิตที่รุ่งโรจน์”
เวลาทำการ ๗.๓๐ – ๑๗.๓๐ น.
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjIr6l-_3AMW_yj5a97H06BoENFbCBcMUmYPPJwPvM-T2JiOLRcvcnvCUfXYx6kgoRGPpORVBOwCK6mXgoksc2APdMcaVXHb_HmHdVrUBidI0WpFQckNhKdvzEhMtHwfukbsboJYigtiwU/s320/suthat%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A.jpg)
ตั้งอยู่บนถนนบำรุงเมือง เขตพระนคร เป็นวัดที่ธำรงอยู่เคียงคู่กรุงรัตนโกสินทร์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้น แต่สร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ ๓
ภายในพระวิหารประดิษฐาน “พระศรีศากยมุนี” พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่มีลักษณะงดงามที่สุดหนึ่งในสามองค์ของประเทศ ผนังมีภาพจิตรกรรมอันวิจิตรเกี่ยวกับจักรวาล และพระอุโบสถมีความยาวมากที่สุดในประเทศ ผู้ที่มาไหว้พระที่วัดสุทัศน์ฯ เชื่อว่าจะเป็น “ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลมีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป” เวลาทำการ ๘.๐๐-๒๑.๐๐น.
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh-PNkFM-FE18lpf5kUaHLam9_zUY0ONXshtAvV_tgJ6r9SOH_BSRMHhb3A2dwgm9r_jl3NLnCxBQK1HP4bdpI8KZsJDvMqLj5Eqv6Cz1pcqfuGt-mn729XMOlOGhAFzGZv0eiY3gLiC5Q/s320/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B2.jpg)
ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอมรินทร์ เขตธนบุรี โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ได้อุทิศบ้านและซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงเพื่อสร้างวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ จากนั้นได้ถวายเป็นพระอารามหลวง รัชกาลที่ ๓ จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดว่า กัลยาณมิตร เนื่องจากพระองค์และเจ้าพระยานิกรบดินทร์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน
ภายในพระวิหารประดิษฐาน “พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือ “หลวงพ่อโต” แต่คนไทยเชื้อสายจีนเรียกว่า “ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง” ซึ่งผู้กราบไหว้ต่างขอพรให้ได้พบพาน “เพื่อนที่ดี เป็นกัลยาณมิตร” และ “เดินทางโดยปลอดภัย”
เวลาทำการ ๗.๐๐-๑๗.๓๐ น.
** ควรแต่งกายสุภาพ ห้ามสวมเสื้อไม่มีแขนหรือกางเกงขาสั้น
** ไม่ควรเสียงดังขณะเข้าชม
** ควรขออนุญาตก่อนถ่ายรูปภาพในอาคาร
** สุภาพสตรีห้ามถูกต้องกายพระสงฆ์และสามเณร
** ต้องถอดรองเท่าก่อนเข้าอาคาร