วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กฏแห่งกรรม

1. เหตุใดคุณมีเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามสวมใส่มากมาย  
          เพราะชาติก่อนคุณเคยถวายจีวรแด่พระสงฆ์ 

 2. เหตุใดชาตินี้คุณมีอาหารดีดีรับประทานอยู่เสมอ  
          เพราะชาติก่อนคุณเคยทำทานอาหารแก่คนยากจนในชาติก่อน 

 3. เหตุใดชาตินี้คุณอดอยากยากจน ไม่มีเสื้อผ้าดีดีสวมใส่ 
          เพราะคุณตระหนี่ขี้เหนียวไม่ยอมทำทานคนจน ในชาติก่อน 

 4. เหตุใดชาตินี้คุณมีบ้านเรือนใหญ่โต  
          เพราะคุณเคยถวายข้าวสารเข้าวัดในชาติก่อน 
 5. เหตุใดชาตินี้คุณมีความเจริญรุ่งเรืองและมีความสุขมาก  
          เพราะคุณเคยถวายเงินสร้างวัดในชาติก่อน 

 6. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนสวย และรูปงาม  
          เพราะคุณเคยถวายดอกไม้สดบูชาพระด้วยความเคารพในชาติก่อน 
 7. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องมีปัญญาดี  
          เพราะคุณเคยเป็นพุทธมามกะและทานมังสวิรัติในชาติก่อน 

 8. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นที่รักของทุกๆ คนและมีเพื่อนมากมาย  
          เพราะคุณเคยสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อทุกคนในชาติก่อน 

 9. เหตุใดชาตินี้คุณมีพ่อ แม่อยู่พร้อมหน้า  
          เพราะคุณเคารพและให้ความช่วยเหลือ ไม่ดูแคลนคนไร้าติในชาติก่อน 
 10. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นเด็กกำพร้า   
          เพราะคุณเคยยิงนก ตกปลา และพรากสัตว์ในชาติก่อน 

 11. เหตุใดชาตินี้คุณมีอายุยืนแข็งแรง  
          เพราะคุณเคยปล่อยนก ปล่อยปลา สิ่งมีชีวิตในชาติก่อน 

 12. เหตุใดชาตินี้คุณอายุสั้น  
          เพราะชาติก่อนคุณเคยฆ่าสัตว์มากมาย 
 13. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนรับใช้  
          เพราะชาติก่อนคุณเคยดูถูกเหยียดหยามคนจน 
 14. เหตุใดชาตินี้คุณมีดวงตาสดใส  
          เพราะชาติก่อนคุณเคยเติมน้ำมันตะเกียงและจุดไฟบูชาพระ 

 15. เหตุใดชาตินี้คุณโง่ปัญญาอ่อนและหูหนวก  
          เพราะชาติก่อนคุณเคยด่าว่าและหยาบคายต่อหน้าพ่อแม่ 
 16. เหตุใดชาตินี้คุณต้องตายเพราะยาพิษ 
          เพราะชาติก่อนคุณเจตนาวางยาในต้นน้ำลำธารให้เป็นพิษ 

 17. เหตุใดชาตินี้คุณจึงแขวนคอตาย  
          เพราะชาติก่อนคุณใช้ตะข่ายล่าและดักสัตว์ 
 18. ถ้าชาตินี้คุณฆ่าเขา  
          ชาติหน้าเขาก็จะฆ่าคุณ และจะฆ่ากันไป-มาไม่มีสิ้นสุด 

 19. ถ้าชาตินี้คุณบอกเล่ากฏแห่งกรรม  
          คุณจะเป็นที่เคารพนับถือมากมายในชาติหน้า  

บทขอขมาพระรัตนตรัย

(นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ) 

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต 
อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง 
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต 
อุกาสะ ขะมามิ ภันเต 

'หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา 
ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า 
ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ 
และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี 
ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย 

ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร 
ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน 
จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว 
ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ 
ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ 
โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก 
ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ 
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า 
ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ 
ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ 
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร' 

( คาถา บทนี้ เป็นคาถาที่ใช้สำหรับขอขมาพระรัตนตรัย 
และใช้เพื่อถอนคำสาปแช่ง ในอดีตชาติ ที่ติดตามมา 
เพราะเราไม่รู้ว่าเคยได้ ล่วงเกินปรามาสใครไปบ้างก็ไม่รู้ ไม่เว้นแม้กระทั่ง 
พระพุทธองค์ พระอรหันต์ พ่อ แม่ เป็นต้น 
เพราะบางคนทำการใดๆ มักมีอุปสรรค หรือมักมีคนไม่ชอบหน้า ) 

ข้อคิด 4 ข้อ ในการดำรงชีวิต ของอ.วชิระเมธี

1.อย่าเป็นนักจับผิด  
       
คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง
       " 
กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก " 
       
คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส " จิตประภัสสร " ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี
       " 
แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข " 
2.
อย่ามัวแต่คิดริษยา  
       " 
แข่งกันดี ไม่ดีสักคน    ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน "
       
คนเราต้องมีพรหมวิหาร คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
       
คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า " เจ้ากรรมนายเวร "   ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์  ฉะนั้น เราต้อง ถอดถอน
       
ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น " ไฟสุมขอน " ( ไฟเย็น) เราริษยา คน เราก็มีทุกข์ ก้อน
       
เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี
       " 
แผ่เมตตา " หรือ ซื้อโคมมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป 
3.
อย่าเสียเวลากับความหลัง 
       90% 
ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ " ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น "
       
มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย
       
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ " อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน "
       " 
อยู่กับปัจจุบันให้เป็น "   ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี " สติ " กำกับตลอดเวลา 
4.
อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ 
       " 
ตัณหา " ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่ เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วย น้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วย เชื้อ 
       
ธรรมชาติของตัณหา คือ " ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม "
       
ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่ คุณค่าเทียม   เช่น คุณค่า
       
ที่แท้ของนาฬิกา คืออะไร คือ ไว้ดูเวลา ไม่ใช่มีไว้  ใส่เพื่อความโก้หรู   
        คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ คืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่ คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์ เราต้องถามตัวเองว่า " เกิดมาทำไม " " คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน" ตามหา " แก่น " ของชีวิตให้เจอ คำว่า "พอดี" คือถ้า "พอ" แล้วจะ"ดี"   รู้จัก "พอ" จะมีชีวิตอย่างมีความสุข 

       
ท่านที่ได้รับโปรดส่งต่อไปให้แก่คนที่ท่านรักแลปรารถนาดี เป็นบุญเป็นกุศลยิ่งนัก 
       
สัพพะทานัง ธัมมะธานัง ชินาติ 
       ' 
การให้ธรรมะเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง 
       
จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว จงประสพแต่ความสุข ความเจริญ ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ
       
และปฏิภาณธนสารสมบัติทุกประการ

อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์


อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์     บวชชั่วคราวเพื่อสร้างบุญ อุทิศให้พ่อแม่เจ้ากรรมนายเวร )
1. หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา
2. เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย
3. สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย
4. เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่อๆไป
5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา
6. จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่??ชีวิต
7. เป็นที่รักที่เมตตามหานิยมของมวลมนุษย์ม! วลสัตว์และเหล่าเทวดา
8. ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ
9. โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรักษาหาย
10.ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่สำหรับผู้ที่บวชไม่ได้เพราะติดภาระกิจต่างๆ   

    ก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้ได้ด้วยการสร้างคนให้ได้บวชสนับสนุนส่งเสริมอาสา 

      ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างบุญที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ที่ท่านพึงจะได้รับจงเร่งทำบุญเสียแต่วันนี้ เพราะเมื่อท่านล่วงลับท่านไม่สามารถสร้างบุญได้อีกจนกว่าจะได้เกิด หากท่านไม่มีบุญมาหนุนนำแรงกรรมอาจดึงให้ท่านไปสู่ภพเดรัจฉาน ภพเปรต ภพสัตว์นรกที่ไม่อาจสร้างบุญสร้างกุศลได้ต่อให้ญาติโยมทำบุญอุทิศให้ก็อาจไม่ได้รับบุญดังนั้นท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้างสมบุญบารมีซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ท่านจะนำติดตัวไปได้! ทุกภพทุกชาติเสียแต่วันนี้ด้วยเทอญ 

ให้ธรรมะเป็นทาน เหนือกว่าทานทั้งปวง



อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรูปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนเป็นกุศลดังนี้ 
1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มี คนคิดร้ายไม่สำเร็จ
3. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วก็จะเลิกจองเวรจองกรรม
4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
5. จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์  วาสนายั่งยืน
7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ   สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นเป็นเ! นื้อนาบุ ญอย่างเอนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้าปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ 

การกินมังสวิรัตและการกินเจได้อานิสงฆ์ดังนี้จ๊ะ


อานิสงส์ 10 ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์ 

1. เป็นที่รักของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเค 
ี ยดแค้นในใจลงได้
4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
5. มีอายุมั่นขวัญยืน
6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากเทพทั้งปวง
7. ยามหลับนิมิตเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล
8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู 
่ อบายภูมิ
10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่สุคติภพ 

มาสร้างบุญบารมี ทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างที่ต้องการ



มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ 
1. 
นั่งสมาธิ  อย่างน้อยวันละ 15 นาที(หรือเดินจงกรมก็ได้)
   
อานิสงส์  เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า
              เพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจากกิเล! ส ปล่อยวางได้ง่าย
              จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ
              ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจน
              ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
              เจ้ากรรมนายเวรและญาติมิตรที่ล่วงลับจะได้บุญกุศล

2. 
สวดมนต์ ด้วยพระคาถาต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน
   
อานิสงส์  เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
              ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า
              เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว
              แนะนำพระคาถาพาหุงมหากา พระคาถาชินบัญชร ,
              พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น
              เมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุกครั้ง

3. ถวายยารักษาโรค ให้วัด ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์
    
อานิสงส์ --- ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา
                   สุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า
                   ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา

4. 
ทำบุญตักบาตร ทุกเช้า
  
อานิสงส์ --- ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร
                 ตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์

5. 
ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆ เกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้คนเป็นธรรมทาน
 
อานิสงส์ --- เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลา ภ ยศ
                สรรเสริญ ปัญญา และบุญบารมีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้
                ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน


6. 
สร้างพระถวายวัด 
  
อานิสงส์ --- ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
                 สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้ง! ปวง ครอบ ครัวเป็นสุข
                 ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุท ธศาสนาตลอดไป

7. 
แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพรามณ์ หรือบวชพระอย่างน้อย วันขึ้นไป
  
อานิสงส์ --- ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่
                 ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้ญาติมิตรและเจ้ากรรมนายเวร
                 สร้างปัจจัยไปสู่น ิพพานในภพต่อๆไป ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนา
                 จิตเป็นกุศล

8. 
บริจาคเลือดหรือร่างกาย 
   
อานิสงส์ --- ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ
                  ต่อไปจะมีผู้คอ ยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษา
                  ไ้ด้เกิดมาม! ีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง  

9. ปล่อยปลา ที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ 
อานิสงส์ --- ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต
               ชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรท ี่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น
               หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใส
               เป็นอิสระ

10. 
ให้ทุนการศึกษา บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรียนต่างๆ อาสาสอนหนังสืออานิสงส์ --- ทำให้มีสติปัญญาดี ในภพต่อๆไปจะ ฉลาดเฉลียวมีปัญญา
                    ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม

11. 
ให้เงินขอทาน ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)
อานิสงส์ --- ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยาก
               เกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลง
               จะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่คาดฝัน

12. 
รักษาศีล หรือศีล 
อานิสงส์ --- ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์นรก
               ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
               กรรมเวรจะไม่ถ่าโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษ
า